ซาอุดีอาระเบียมักเป็นที่รู้จักในฐานะประเทศที่มีความหรูหราและการเติบโตอย่างกว้างขวาง โดยส่วนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยทรัพยากรน้ำมันที่อุดมสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อพลวัตโลกเปลี่ยนแปลงไป ราชอาณาจักรกำลังปรับกลยุทธ์ทางการคลังในลักษณะที่ผู้เชี่ยวชาญเรียกว่าเป็น “recalibration” หรือ “การจัดลำดับความสำคัญใหม่”

หลังจากความพยายามพัฒนาขยับขยายลงทุนอย่างเข้มข้นเป็นเวลาแปดปี ประเทศกำลังหยุดพักเพื่อพิจารณาการจัดการกองทุนอย่างรอบคอบมากขึ้น

มีหลายปัจจัยที่ส่งเสริมให้ซาอุดีอาระเบียควบคุมการเงินให้แน่นขึ้น ปัจจัยหลักคือการอ่อนตัวลงของราคาน้ำมันในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อรายได้จากน้ำมันลดลง ซาอุดีอาระเบียจึงเน้นย้ำถึงความยั่งยืนทางการเงิน: แนวทางการลงทุนที่กำลังดำเนินอยู่ในช่วงนี้ เน้นอยู่ใน’โลกความเป็นจริง’และ’ระมัดระวัง’

นอกจากนี้ ภาระที่กำลังจะมาถึงของการปรับโฉมประเทศครั้งใหญ่ ซึ่งเน้นย้ำด้วยพันธสัญญาอย่างฟุตบอลโลก 2034 และงาน Expo 2030 ที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้เกิดการมุ่งเน้นการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การ recalibration ใหม่นี้ไม่ได้บ่งบอกถึงการถอยห่างจากความทะเยอทะยานอันยิ่งใหญ่ แต่เป็นการหยุดพักเชิงกลยุทธ์เพื่อให้ยั่งยืนขึ้น

โครงการอสังหาฯอย่าง Diriyah Gate มูลค่า 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ก็ไม่ได้ถูกพับไป โดยมีการเร่งการดำเนินการไปพร้อมกับการจำกัดงบประมาณที่เข้มงวดมากขึ้น การปรับแนวทางนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อรักษา momentum การเติบโตของราชอาณาจักร แม้ว่าจะเป็นไปในอัตราที่รอบคอบมากขึ้นเพื่อป้องกันภัยจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและเพื่อให้แน่ใจว่าจะสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และหลากหลายมากพอให้ไม่ต้องง้ออุตสาหกรรมเดียว

ในขณะที่ซาอุดีอาระเบียเปลี่ยนแนวคิดการลงทุนใหม่ คำถามเกี่ยวกับความยั่งยืนของเป้าหมาย Vision 2030 ก็ปรากฏขึ้น แม้ว่าการมีส่วนร่วมของแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเพศหญิง จะพัฒนาขึ้นอย่างกระตือรือร้นเกินความคาดหมาย แต่เป้าหมายอื่นๆ ยังคงเป็นสิ่งที่ยากจะบรรลุ

การเติบโตของการส่งออกที่ไม่ใช่น้ำมัน ยังล้าหลังกว่าการคาดการณ์ ตัวเลขความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลกก็ยังคงไม่เข้าเกณฑ์มาตรฐานที่คาดการณ์ไว้

แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ แต่การคลังของซาอุดีอาระเบียก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ประเทศยังคงมีเงินสำรองจำนวนมาก และสินทรัพย์ที่ควบคุมโดยกองทุน Public Investment Fund น่าจะช่วยซาอุดีอาระเบียหากเกิดความตึงเครียดทางการเงินในระยะสั้นได้

อย่างไรก็ตาม การรักษาสมดุลเป็นเรื่องละเอียดอ่อน: การรักษา momentum ความก้าวหน้าในการพัฒนาประเทศ ในขณะที่บริหารการเงินอย่างชาญฉลาดและยั่งยืน นี่ยังคงเป็นเรื่องที่นักวิเคราะห์ยังไม่มั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่

ซาอุดีอาระเบียต้องใช้ความมั่งคั่งจากน้ำมันในปัจจุบัน เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีอนาคตที่หลากหลาย และพึ่งพารายได้จากน้ำมันน้อยลงในท้ายที่สุด

ดังนั้น การเดินทางสู่ Vision 2030 ของซาอุดีอาระเบียจึงเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนของความทะเยอทะยานที่ถูกควบคุมด้วยการมองการณ์ไกลและกลยุทธ์ความยั่งยืน

การรักษาสมดุลของ ‘แผนการอันยิ่งใหญ่’ ด้วยระบบระเบียบของเงินทุนช่วยให้มั่นใจว่าราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่จะช่วยรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังจะช่วยให้เศรษฐกิจในประเทศมีความแข็งแกร่ง หลากหลาย และยืดหยุ่นมากขึ้นสำหรับอนาคตระยะยาว